วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

เทคโนโลยีระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ เรื่องอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต

วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต

บทนำ

วันนี้ที่เรามาเจอกันเพราะอะไรครับ  ก็เพราะว่า  IT  เนี่ยะได้เข้ามามีบทบาทเหลือเกินนะครับในโลกทุกวันนี้นะครับ
ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจโลกการแข่งขัน หรือว่าการใช้งานในชีวิตประจำวันนะครับ ก็เลยทำให้หลาย ๆ คนนะครับคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาเรียนรู้  IT  กันอย่างจริงจังกันซะทีนะครับ  วันนี้หลาย ๆ คนนะครับต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะครับว่าเป็นผู้ที่ใช้  computer อย่างคล่องแคล่วอยู่แล้ว  ฉะนั้นคุณก็จะเกาะติดรถไฟสายที่จะเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วนี้นะครับไปเรียบร้อยนะครับแต่ท่านที่ยังใช้ไม่เป็นเลยวันนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสนึงนะครับอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ท่านได้รู้จัก  computer ได้รู้จักวงการ  IT  มากยิ่งขึ้นด้วยนะครับ  ในวันนี้ก็ต้องบอกว่าที่เรามาเจอกันเพราะอะไรฮะ ก็เพราะว่าโลกยุคเนี้ยะมันกลายเป็นโลกยุค  ITเรียบร้อยโลกที่เคยเป็นยุคอุตสาหกรรมนะครับ  เร่ง  แข่งขันกันในด้านเร่งผลิต  ผลผลิตต่าง ๆ เนี่ยะนะครับ  ก็เรียกว่าเปลี่ยนโฉมหน้านะครับ กลายเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสารผู้ที่กำข้อมูลข่าวสารไว้ได้มากที่สุดก็จะได้เปรียบกว่าผู้ที่มีสินค้าในคลังมากที่สุดนะครับในวันนี้นะครับต้องบอกว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือว่า  IT  เนี่ยะครับมีบทบาทอย่างมากเหลือเกินนะครับ  เนื่องด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราก็ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยการใช้พื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งสิ้นนะครับในวันนี้หัวข้อที่เราจะมาคุยกันนะฮะ
 ก็เลยมีหลาย ๆ เรื่องนะครับที่จะทำให้ทุก ๆ ท่านได้เข้าใจเกี่ยวกับโลกของ  IT  มากยิ่งขึ้นด้วยนะครับ  ทำไมผมถึงบอกว่าโลกผันตัวจากอุตสาหกรรมมาสู่โลกยุค  IT  นะครับ  ดูง่าย ๆ นะครับก็ดูจาก  10  อันดับ top  ten  นะครับของมหาเศรษฐีทั่วโลกเนี่ยะนะครับ  8 ใน 10  ครับ  เออ  เป็นมหาเศรษฐีที่มาจากธุรกิจ  IT หนึ่งในนั้นที่ทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ  มหาเศรษฐีที่มีชื่อว่า  Bill  Gate นั่นเองนะครับ  Bill  Gate    ไมโครซอฟนี้แหละครับ  ผู้ที่ก่อตั้งบริษัทซอฟแวร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนะครับก็เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของโลกใบนี้นะครับ  ติดอันดับหลายปีมาเลยทีเดียวนะครับ  ต้องบอกว่า  Bill  Gate  เนี่ยะเค้าเป็นคนที่นำเอาแนวความคิดที่ว่า  computer  เนี่ยะต้องมีระบบปฏิบัติการหรือว่า  OS  เนี่ยะนะอะ  และก็ต้องสื่อสารกับผู้ใช้ได้อย่างง่าย  ง่ายในที่นี้ก็คือจะต้องมี  graphic  mode  มี  Icon  มีปุ่ม  มีอะไรต่าง ๆ  ดีกว่าการที่จะต้อง  key  พิมพ์เป็น  command  line  เข้ามาในสมัยก่อน  ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากต่อการเข้าใจนะครับ
วันนี้ก็เลยทำให้ผู้ใช้  computer  ทั่วโลกเนี่ยะนะครับ  มีเยอะมาก ๆ  และก็เพิ่มขึ้นทุก ๆ วันนะ  เช่นเดียวกันในขณะที่เรากำลังนั่งคุยกันอยู่ตอนนี้นะครับ  ก็กำลังมีคนซื้อ  computer  เครื่องใหม่เข้าบ้าน  กำลังมีคนที่กำลังเรียนรู้เรื่องราวของ  computer  ด้วยนะครับ  ต้องบอกว่า    วันนี้เนี่ยะนะครับ  เอ่อ  IT  เนี่ยะนะครับได้เข้ามามีบทบาทสูงนะครับ  และก็หลายคนก็คงจะได้ยินคำพูดอีกคำนึงที่เป็นคำใกล้เคียงกันนะฮะ  นั้นคือคำว่า  ICT  นะฮะ  หลายคนก็คงสงสัย  เอ๊ะ  ICT  กับ  IT  มันเหมือนกันมั้ยนะครับ  จริง ๆ  ICT  คือส่วนเติมเต็ม  เออ  ของ  IT  นั่นเองนะครับ
เทคโนโลยีสารสนเทศที่ย่อมาจาก  Information  Technology  เนี่ยะ  ที่ต้องมี  C  เข้ามาคั่นกลางเนี่ยะนะครับก็เพราะว่าทุกวันนี้เนี่ยะ  computer  ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอีกต่อไปแล้วนะครับ  computer  กว่า  80 %  ทั่วโลกเนี่ยะ  ก็ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย  Internet  น่านะครับ  ต้องเข้าถึงข้อมูลที่เป็นเครือข่ายใหญ่  link  กันได้หมดนะครับ  ฉะนั้นคำว่า  C  ก็คือมาจากคำว่า  Communication  นั่นเอง  หรือว่า  การสื่อสาร  นะครับ  ฉะนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในวันนี้นะครับจะเป็นส่วนผลักดันให้คนรุ่นใหม่อย่างเราเนี่ยะนะครับ  ก้าวไปสู่ชีวิตการทำงานในอนาคตนะฮะ  ได้อย่างมีประสิทธิภาพและก็  เอ่อ  มีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นนะครับ  ครับ  ก่อนหน้านี้นะครับในโลกยุคอุตสาหกรรมเนี่ยะนะครับ  บริษัท  General  Motor  นะฮะหรือว่า  Brand  ของเค้าก็คือ  GM  นั่นเองเนี่ยะนะครับของอเมริกาเนี่ยะเค้าใช้เวลากว่า  30  ปีเลยที่เดียวนะครับในการที่จะผลักดันสินค้าของเค้าเนี่ยะเข้าไปอยู่ใน  56  ประเทศทั่วโลก  แต่คิดดูว่าในขณะเดียวกัน  Microsoft  เนี่ยะนะครับ  ใช้เวลาเพียง  10  ปีนำเอา  Software  Microsoft  Window  ของเค้าเนี่ยะเข้าไปอยู่ใน  computer  ของผู้ใช้ในกว่า  88  ประเทศทั่วโลก  แหม...เยอะมาก ๆ เลยนะฮะและก็ยังมีคำยืนยันอีกอย่างนึงที่ทำให้เราต้องตระหนักแล้วว่า  IT  เนี่ยะสำคัญ  ในหนังสือนะครับที่มีชื่อว่า  As  a  Future  Catch  You  ซึ่งเป็นหนังสือแปลมานะครับ  ซึ่ง ฯพณฯ  นายกรัฐมนตรี  พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ  ชิณวัตร  เนี่ยะแนะนำให้เยาวชนไทยเนี่ยะต้องอ่านเลยเล่มเนี้ยะนะครับ  ก็บอกเลยว่า    วันนี้เนี่ยะนะครับ  ใครที่ยังใช้  e-mail  ไม่เป็น  คุณตกไปอยู่โลกยุคเก่าแล้ว  และยากมากที่คุณจะไล่ตามโลกยุคใหม่เนี่ยะให้ทัน  Internet  เปลี่ยนโฉมหน้าครับ เปลี่ยนโฉมหน้าของการติดต่อสื่อสาร  ทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วขึ้นนะครับ  จากที่เคยต้องเดินทางก็ไม่ต้องเดินทาง  จากที่เคยต้อง เอ่อ  ไปล้างอัดรูปเอ่อนะครับ  เพื่อให้ได้มาซึ่งภาพนะครับ  ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้วนะครับ  เราก็มีกล้องดิจิตอล  มีอุปกรณ์ต่าง ๆ  มากมายที่เกิดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกนะฮะ  ส่งภาพผ่าน  e-mail  หรือว่าจะเป็นการประชุมโดยที่ไม่ต้องเดินทางก็ตาม  หรือจะเป็น e-learning  แบบนี้ล่ะครับ  ทุกท่านก็สามารถที่จะได้รับความรู้ในแบบเดียวกัน  เกิดความเท่าเทียมนะครับในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร  แต่ความไม่เท่าเทียมจะเกิดขึ้นครับเมื่ออะไรครับ  เมื่อมีคนใช้ไม่เป็นนั่นเองนะครับ  คนที่ยังใช้ไม่เป็นก็จะไม่ได้รับความเท่าเทียมนั้น  และก็จะต้องถูกทิ้งห่าง  กล่าวแยกง่าย ๆ  ละกันครับ  คนที่ใช้  computer  internet  และ  e-mail  เป็นแล้วเนี่ยะนะครับ  คุณกำลังขับรถ  เอ่อ  เฟอรารี่อยู่  ใช้ความเร็วประมาณ  ประมาณ  180  กิโลเมตรต่อชั่วโมง  เอิ๊น...ออกไปเร็วมากเลยนะครับ  ในขณะที่คนที่ยังใช้ไม่เป็นนี่ยังขับซาเล้งหรือขับตุ๊ก ๆ อยู่นะฮะ  วิ่งได้ประมาณ  60  กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น  ฉะนั้นไอ้ช่วงนี้ล่ะครับมันก็จะเกิด  gap  ห่างไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ นะครับ  คุณเองจะยอมตกอยู่ในโลกยุคเก่า  หรือว่าคุณจะไปพร้อมกัน  กะโลกยุคใหม่นะครับก็ต้องเลือกกันนะครับ
วันนี้นะครับหัวข้อที่ผมจะมาพูดถึงนะฮะ  ในสื่อการสอนนี้นะครับก็จะมีอยู่ประมาณ  7-8  หัวข้อด้วยกันนะครับ
1.เราจะมาทำความรู้จัก  Hardware  กับ  Software  ก่อน  จะรู้จัก  computer  จะรู้จักโลกของ  IT  ก็ต้องรู้จักองค์ประกอบของมันนะครับ  จริงๆ แล้ว  computer  แบ่งออกเป็น  2  ส่วนใหญ่ ๆ  เท่านั้นเอง  ก็คือ  Hardware  อุปกรณ์ที่จับต้องได้นะครับ  มีคนเค้าเคยกล่าวอ้างว่าพจนานุกรมไทยเนี่ยะเคยแปลไว้ว่า  Hardware  แปลว่า  กระด้างภัณฑ์  จริง ๆ  ไม่ใช่นะฮะเป็นแค่มุกตลกเท่านั้นเองนะครับ  แต่ก็คืออุปกรณ์ที่จับต้องได้เรียกว่า  Hardware  ส่วน  Software  นะครับก็คืออุปกรณ์ที่จับต้องไม่ได้  ไม่สามารถเอามือจับได้  เพราะว่ามันอยู่ในจอใช่มั้ยครับ  ก็ต้องใช้  Mouse  เป็นตัวที่จะจับนะฮะ  ด้วยการเคลื่อน  Mouse  และก็  Operate  หรือว่าใช้งานสิ่งนั้นให้ได้นะครับ
2. ครับ  เราจะมารู้จักระบบปฏิบัติการหรือว่า  OS  นะครับ 
3 เรามารู้จัก  application  หรือโปรแกรมใช้งานต่าง ๆ  นะครับ  ที่สำหรับงานเฉพาะทางนะครับ 
4 เราจะมารู้จั ก  internet  ครับ  โครงข่ายอันน่ามหัศจรรย์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร  ทำไมเราสามารถที่จะติดต่อสื่อสารพูดคุยกับคนที่อยู่ไกลขนาดคนละซีกโลกนะฮะ  ได้รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มขนาดนั้นนะครับ
5. เราจะมารู้จักการป้องกันตัวเองบนเครือข่าย  internet  อ้าอันนี้สำคัญมาก  ใช้  internet  เป็นแล้วเนี่ยะนะครับ  ภัยต่าง ๆ เนี่ยะก็เกิดขึ้นเยอะ  ไม่ว่าจะเป็นการล่อลวงกันบน  internet  นะครับ  ล่อลวงกันยังไม่พอ  ไอ้ล่อลวงนี้ก็จะคงให้เป็นแนวทางเฉย ๆ   แต่ว่าสิ่งที่ต้องป้องกันเลยก็คือ  ภัยจาก  Hacker หรือว่านักเจาะระบบที่ตอนนี้เนี่ยะ  กำลังเป็นปัญหาหนักเหมือนกันนะครับ  Hacker  ทุกวันนี้นะครับไม่ได้มีแต่การเจาะระบบอย่างเดียวนะครับ  มีถึงเรื่องการปล่อยไวรัส  การทำ  spare  mail  การทำอะไรต่าง ๆ  มากมาย  อา..spire  ware  ด้วย  ที่มันน่ากลัวมาก ๆ  เดี๋ยวจะลงลึกกันอีกทีนึงแล้วกันนะครับ  ส่วนหัวข้อที่
6. ครับก็คือ  รู้จักการสื่อสารไร้สาย  นี่  ทุกวันนี้ทุกคนต้อง  Hello  อยู่แล้ว  อันนี้คือหนึ่งในอุปกรณ์  IT  Hello เป็นไงจ๊ะ  สบายดีมั้ย  นะครับ  หนึ่งในอุปกรณ์  IT  ที่ทุกคนต้องมีอยู่ในมือครับ  ก็คือโทรศัพท์มือถือ  แต่ใครไม่มีก็  ก็โอ๋อย่าไปน้อยอกน้อยใจนะฮะ  วันนึงก็ต้องได้ใช้แน่นอนนะครับ  วันนี้เดี๋ยวเราจะรู้จักกันด้วย  และก็
7. ครับ  รู้จัก  Device หรือว่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ พกพาติดตัว  computer  มือถือ  PDA  pocket DC  palm  หรือว่าอะไรก็แล้วแต่นะครับ  กล้องดิจิตอลขนาดเล็ก  เดี๋ยวเรามารู้จักกัน  แล้วก็
8. ครับเราจะมารู้จักตัวเอง  รู้จักว่าตัวคุณเองพร้อมที่จะทำงานมากน้อยแค่ไหนแล้วนะครับ  เพราะว่าตอนนี้ทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสันต์อยู่ในระดับอุดมศึกษากันแล้วอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราก็ต้องเข้าสู่วัยทำงานนะครับ  ฉะนั้นเราคงจะมารู้จักตัวเองกันให้มากยิ่งขึ้นด้วย (09:14)

2. การรู้จัก Hardware และ software
ส่วนประกอบของ computer
เอาละครับกลับมาที่หัวข้อแรกดีกว่าถ้าเราจะมาลงลึกกันนะครับ  นั่นก็คือเรื่องการรู้จัก  Hardware  กับ  Software
ผมต้องการอุปกรณ์ซะด้วยครับ  วันนี้เดี๋ยวเราจะมาชำแหละให้ดูเลยว่าใน  computer  หนึ่งเครื่องเนี่ยะ  มันมี  Hardware  อะไรกันบ้างครับ ปริ๊ง...แท้แด๊ม  มาแล้วครับรวดเร็วมากเลยนะครับ  ก็เป็น  Computer  PC  ทั่วไปนะครับ  ซึ่งทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะว่า  ถ้าไม่คุ้นเคยก็คงจะดู e-learning  นี้ไม่ได้นะครับ  ต้องบอกก่อนเลยว่าสิ่งนี้เนี่ยะมันมีชื่อเรียกเยอะมากนะครับบางคนก็ยังรียกมันว่า  PC  นะครับ  PC  ย่อมาจาก  Personal  Computer  คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั่นเองนะครับ  แต่มันก็ยังจะมีชื่อเล่นอีก  Nickname  ของมันก็เรียกว่า  Desktop  PC  บ้างนะครับ  Desktop  ก็คือ  Desk  คือ  โต๊ะ  Top  คือ  บน  คือตั้งบนโต๊ะนะครับเป็นเครื่องที่ขนย้ายไปไหนไม่ได้นะครับ  ก็ต้องตั้งบนโต๊ะยกเว้นขนย้ายไปซ่อมอะไรอย่างงี้นะครับ  ส่วนอันนี้ครับก็เป็น  Laptop นะครับ  Laptop  ก็คือ  Lap  แปลว่า  ตัก  Top  แปลว่า  บน  ก็คือวางบนตัก  แต่บางคนก็ไม่ได้เรียกแบบ  Laptop  ครับ  บางคนเรียกว่า  Notebook  เพราะว่ามองว่ามันเหมือนสมุดจดที่พกไปไหนก็ได้  Computer  Notebook  นั่นเองนะครับ  เอาล่ะ  มารู้จักกับ  PC  ก่อนดีกว่า  เพราะว่าเป็นพื้นฐานอยู่แล้วในการเรียนรู้  Computer  นะครับ  ผมจะเสกให้ฝา
เนี่ยะนะครับมันเปิดออกมาได้  ปรึ๊ย...ฉึบโอโหไม่น่าเชื่อครับ  จริง ๆ มันแกะไว้แล้วนะครับ  อ่ะ  ก็มาดูภายในกันเลยนะครับว่าใน  computer  PC  1  เครื่องเนี่ยะมันประกอบกันได้ด้วยอะไร  อ่า  มีอะไรบ้างนะครับ  ก็ถ้าดูกันตรงนี้เลยนะฮะ  Zoom  เข้ามาเลยเนี่ยะ  ก็จะมีอะไรยึบยับเต็มไปหมด  สายฟงสายไฟนะครับสิ่งที่โดดเด่นที่สุดนะครับในการตัดสินใจเลือกซื้อ  Computer PC  เอ่อทุก ๆ ครั้งที่ทุกคนเลือกซื้อเนี่ยะก็คือ  แกนกลางของมัน  CPU  นะครับ ย่อมาจาก  Central  Processing  Unit  นะครับ  CPU  นี่ก็คือหน่วยประมวลผลกลางนั่นเอง  เรียกเป็นไทยนะครับ  เพราะว่า  Processor  ก็คือหน่วยที่จะประมวลผล  หน่วยที่จะคิด  และก็อยู่ตรงกลางซะด้วย 
ฉะนั้นถ้าเรามาดูกันครับ CPU  ก็จะอยู่ตรงนี้นี่เองนะครับ ตรงนี้นี่  ส่วนที่กำลังถ่ายทำอยู่ตรงนี้นี่จะเป็นพัดลมนะฮะ  พัดลมที่เรียกว่า  Heat  Sink  นะครับ  Heat  Sink  จะทำหน้าที่ในการเป่าให้  CPU  ที่กำลังคิดอยู่  โอ้ย  เจ้านายใช้งานหนักเหลือเกิน  นะฮะ  เครื่องมันจะร้อนครับ  ฉะนั้นมันก็ต้องมี  Heat  Sink  เนี่ยะคอยมาอะไรนะ  คอยระบายความร้อนอยู่  แม่...ผมพอดีจบนอกนะฮะคิดคำไทยไม่ค่อยออก  ทีนี้ก็ระบายความร้อนกันไปนะครับก็จะติดอยู่เหนือบน  CPU  นี้นะครับCPU  ก็จะทำหน้าที่ติดอยู่กับ  Main board  อีกครั้งนึงนะครับ  CPU  และอุปกรณ์ทั้งหมดใน  computer  จะติดอยู่กับอุปกรณ์ชิ้นนึงที่เมื่อกี๊พูดไปแล้วก็คือ  Main board  นะฮะ  Main board  บางคนก็จะเรียกว่า  Mother board  บอร์ดแม่นั่นเองนะครับ  บอร์ดแม่ในที่นี้เนี่ยะถ้าเปรียบกับคนเราก็เหมือนกับมันเป็นร่างกายและเส้นเลือดนะครับ  เป็นร่างกายที่เป็นพื้นฐานของตัวและก็มีเส้นเลือดที่จะส่งกระแสไฟนะครับเข้าไปเลี้ยงในส่วนต่าง ๆ นะครับ  อุปกรณ์ทุกตัวอยู่บน  Mother board  ทั้งหมด  นะครับ  อยู่บน  Mother board  ในที่นี้ก็คือ  CPU  ติดเข้าไปที่แกนกลางนะครับ เนี่ยะนะครับถ้าเทียบเป็นร่างกายเหมือนอวัยวะเนี่ยะนะครับ  ก็ต้องบอกว่าเป็นสมอง  แต่เพียงแต่ว่า  CPU  มันเป็นสมองส่วนคิดอย่างเดียว  มันไม่จำครับมันขี้ลืมมากเลยนะฮะ  มันจะจำอะไรไม่ได้เลย  คือคิดอย่างเดียว  คิดๆ เจ้านายสั่งอะไรมา  คือ  เราเนี่ยะสั่งอะไรมัน  มันก็จะคิดๆ Computer ก็เลยต้องมีอวัยวะอีกชิ้นนึงที่จะต้องช่วยจำด้วยนะครับ  นั่นก็คือ  RAM  แว็ป..นี่  RAM  ก็จะเป็นลักษณะอย่างนี้  นี่นะครับ  ก็จะเป็นคล้าย ๆ กับเป็นชิปนะครับที่จะ  สามารถที่จะจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้นะครับทุกวันนี้ก็จะมี  RAM  ที่    ช่วงเวลาที่กำลังบันทึกเทป  e-learning  นี้อยู่เนี่ยะนะครับ  ก็จะเป็น  โอ่  พูดบันทึกเทปไม่ถูกไม่ได้ใช้เทปแล้วนะครับ  บันทึกสื่อการสอนแบบ  e-learning  นี้นะครับ  ในรูปแบบของ  Digital  file  นี้นะครับ  ก็เอ่อ  RAM  ทุกวันนี้จะต้องเป็น  RAM  เอ่อชนิด  DDR  RAM  นะฮะ  DDRSD  RAM  เป็นชื่อเต็มของมันนะครับ  เป็น  DDR  เอ่อ  เป็น  RAM  ที่เอ่อเรียกว่าย่อมาจากคำว่า  Double  Data  Rate  นะครับ  ทำให้  RAM  แบบเดิม ๆ นี่ นะครับ  ที่ย่อมาเอ่อที่คือคำว่า  SD  RAM  นี่นะครับ  มีการส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นเป็นอีก  1  เท่าตัวนะครับ  ยังมี  RAM  อีกชนิดอื่น ๆ นะครับ  แต่ยังไม่เล่าละกัน  ก็จะมีเอ่อตัว  RAM  ตัวนี้นะครับ  เรียกสั้น ๆ ว่า  RAM ก็ได้   RAM  ก็จะทำหน้าที่ในการทำสิ่งที่  CPU  คิด  เพียงแต่ว่าไอ้  RAM  เนี่ยะมันจำได้เหมือนกัน  แต่มันก็ดันขี้ลืมอีก  โอ้โห  ทำไมจะขี้ลืมกันซ้ำซ้อนขนาดนี้  CPU  คิด ๆๆๆๆ  ไม่ยอมจำ  ส่งให้  RAM  จำ  พอ  RAM  จำปั๊บ  พอเจ้านายปิดเครื่องปึบ  ลืม  ไม่จำต่อครับ  เปิดขึ้นมาอีกที โอ้ะอะไรนะเมื่อกี้ให้ฉันทำอะไรฉันจำไม่ได้แล้ว  ฉะนั้นก็จึงต้องมีอีกหนึ่งหน่วยความจำครับ  เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่เป็นหลักเลยนะฮะ  เป็นแกนหลักเลยในการใช้งาน  computer  นั่นก็คือ  ชะแว็ป  นี่  Hard disk นี่แต๊แด่น  Hard disk  หรือว่า  ดิสก์หนักนะครับ  ดิสก์ที่มีขนาดใหญ่และหนักพอสมควรนะครับ  Hard disk  นี่ก็จะเป็นหน่วยบันทึกข้อมูลนะครับ  ซึ่งก็จะบันทึกแบบ  แบบถาวรลงไปในนี้เลยนะครับ  เอ่อ  ถาวรในที่นี้คือถ้าเราไป  Format  มัน  มันก็จะลืมเหมือนกันนะครับ  แต่ว่าสิ่งที่เราเก็บนะครับไม่ว่าจะเป็น  File  File  งาน  Word  document  File  ภาพ  File  เอกสาร  หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ที่เรา  Save  เก็บไว้เนี่ยะโดยการกดปุ่ม  Save  เนี่ยะก็จะวิ่งเข้าไปอยู่ใน  Hard disk  Hard disk  ก็จะมีจานอยู่ภายในนะครับ  อย่าให้ถึงกับขั้นต้องแกะเลยละกันนะครับ  ก็จะมีจานอยู่  จานก็จะหมุนอยู่นะครับโดยจะมีหัวอ่านนะครับ  คล้าย ๆ กับเครื่องเล่นแผ่นเสียงเนี่ยะนะครับในสมัยก่อนเนี่ยะ  คอยที่จะเขียนนะครับเอ่อข้อมูลนะครับในรูปแบบของดิจิตอล  ก็คือ  0101100100100  นะครับ  เป็นเลขยึบเต็บไปหมดเลยก็บันทึกเข้าไปในนี้นะครับ  เพื่อให้  Hard disk  เนี่ยะจดจำข้อมูลได้ทันมนุษย์นั่นเองเพราะมนุษย์คงจำทั้งหมดคงจะไม่ได้นะครับในสิ่งที่เขียนลงไป  อันนี้ก็จะเป็น  Hard disk  นะครับ  นอกจากนี้นะครับก็จะมีส่วนหลัก ๆ นี่นะครับ  แว๊ป  กานใหญ่ๆนี่ที่หลายคนก็มองดู  เอ๊  ทำไมมันใหญ่จังเลยนะฮะ  แกะออกมาเลย  แว็ป  แอแอน  ตือดึม  อ่า  ปัจจุบันนี้นะครับก็สำคัญมากและจำเป็นมากนะครับสำหรับเครื่อง  computer  ที่ต้องการการแสดงผลหรือว่าการเล่นกราฟฟิกที่ดีเนี่ยะนะครับ  ก็จะต้องมี  Card  จอ  Card  จอ  หรือ  VGA  Card  นะครับ  ปัจจุบันก็พัฒนามาตรฐานไปถึง  AGP  8X  แล้วนะครับ  AGP  เนี่ยะก็ย่อมาจาก Accalarate  Graphic  Port  เป็นการเร่งทำให้  Graphic  เนี่ยะแสดงผลได้อย่างดีมากยิ่งขึ้นนะครับ  ซึ่งก็จะมีหน่วยความจำอีกอยู่ในนี้นะครับ  หน่วยความจำซึ่งแยกต่างหากนะครับไม่ได้เหมือนกับหน่วยความจำของ  RAM  นะฮะซึ่งอยู่ในเครื่องนี่  ก็จะมีหน่วยความจำในตัวนี้ด้วยเพื่อที่จะประมวลผลกราฟฟิกได้เร็วมากยิ่งขึ้นนะครับ  ภาพที่เป็นภาพ  animation ที่ต้องใช้การบีบอัดภาพ  lender  ภาพอย่างขั้นสูงเนี่ยะนะครับก็สามารถแสดงผลได้อย่าง  smooth  นะครับ  ภาพก็จะเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น  ถ้าพูดถึงถ้าเป็นเกมนี่ก็ไม่กระตุกว่างั้นเถอะนะฮะ  จะดูภาพจาก  File  VDO  มันก็จะไม่กระตุกด้วย  ก็จะเล่นโดย  smooth  ขึ้นนะครับครับ  เอาล่ะนอกจากนั้นนะครับก็คงจะเป็นส่วนประกอบที่อยู่บน  Main board  นะฮะ  Main board  ทุก ๆ วันนี้นะฮะมันก็จะมีการ์ดเสียงหรือว่า  sound  card  นะครับ  อันนี้คงจะมองไม่เห็นนะครับยังไงเดี๋ยวดูภาพประกอบ  ปริ๊งที่ด้านข้างอีกทีนึง น่า  ขึ้นทันรึเปล่านะครับ sound card นี่นะครับก็จะเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์มันเปล่งเสียงออกมาได้นะครับ โดยมันก็จะทำหน้าที่คำนวณเสียงทั้งหมดที่ถูกสั่งการออกมานะครับ และก็เป็นเสียงออกลำโพงออกมาให้เราได้ยินกันนะครับ นอกจากนี้ครับแม้สายระโยงรยางค์เต็มไปหมดเลยอันนี้คงจะเปรียบได้กับเส้นเลือดจริง ๆ งะนะครับ  ก็จะเป็นสายเอ่อสายแพรบ้างนะครับ  อย่างงี้เค้าเรียกว่าสายแพร  สายแพรนี่ก็จะต่อจาก  Main board  เนี่ยะไปยังอุปกรณ์ที่ไม่สามารถมาวางบน  Main board  ได้  อย่างที่ผมบอกไปแล้วตอนต้นนะครับว่า  Main  board  เนี่ยะจะรับอุปกรณ์ทุกอย่างเสียบเข้ากับตัวมันนะครับ  แต่อย่าง  Hard disk  นี้จะไป  ป้าบ  เข้าไปกับ  Main board คงจะไม่ไหวนะครับ  ฉะนั้นก็ต้องไปสถิตอยู่ในแท่นแท่นนึงที่อยู่บน  case นะครับ  ก็จะออกแบบไว้รองรับมันได้เนี่ยะนะครับ  แล้วก็จะมีสายแพรเนี่ยะเสียบแป้บเข้าไปนะครับ  อีกส่วนนึงที่จะลืมไม่ได้เลยนะครับ  แม่..เกือบจะลืมพูดถึงกันไปแล้วนะครับ  ก็คือ  อุปกรณ์ที่อยู่ตรงนี้นี่เอง  แว็ป..แคว็ป ๆ  ฉึบนี่ อึช อ้า โอ่ อ๊ะ โอ้โหนะครับ  อะไรจะเล่นตัวขนาดนี้นะครับ  อันนี้ก็คือ  Diskette  นั่นเองนะครับ  แม่..หลายคนก็คงจะคุ้นเคยและก็ใช้กันดี  Diskette  นี่ก็จะมีขนาดความจุนะครับ  1.44  MB  นะครับ  เป็น  Diskette  ที่ทุกวันนี้ถ้านับเอาตามตรงก็คือโบราณแล้วนะครับ  เมื่อก่อน  Diskette  ก็จะใหญ่กว่านี้นะครับ  เป็นDisk  5  นิ้วอะไรแบบงี้นะครับ  ก็พัฒนาจนมันเล็กแล้วนะครับ  แต่ปรากฏว่าความจุของมันเนี่ยะที่น้อยมากเนี่ยะนะครับ  1.44  MB  เมื่อก่อนก็คิดว่า  1.44  โอ้โหย  เยอะเหมือนกันเก็บ  File  เอกสารได้เยอะเลย  แต่เดี๋ยวนี้พอเรามีกล้องดิจิตอลเข้ามา  พอเรามีเรื่องของ  File multimedia  นะครับ  Flat  animation  ภาพเคลื่อนไหว  Website  แผ่น  Diskette  ที่มีขนาดความจุแค่  1.44  เนี่ยะก็คงจะจุไม่ไหวแล้วนะครับ  ก็เลย  Diskette ในปัจจุบันเนี้ยะถ้าคุณซื้อ  computer  ในยุคนี้นะครับ  ก็จะไม่มีแล้วนะครับ  ก็คือจะไม่จำเป็นที่จะต้องติดมากับเครื่อง  computer  นะครับ  เห็นได้ชัดเลยกับ  Laptop  นะครับ  ซึ่ง  Laptop  ตอนนี้จะไม่มี  Diskette  ติดมาแล้วนะครับ  เพราะว่าหนึ่ง  Laptop  ต้องการการเคลื่อนย้ายสะดวก  Mobility  เคลื่อนไหวง่าย  จะมี  Laptop  มาเสียบอยู่ก็เอ่อ  จะมี  Diskette  มาเสียบอยู่ก็คงจะทำให้หนักและก็เปลืองพื้นที่นะครับในการจัดเก็บอุปกรณ์อื่น ๆ ตอนนี้การจัดเก็บอุปกรณ์แบบโยกย้ายได้ก็เลยมี  Format  ออกมาเยอะเหลือเกินนะครับ  แต่  Format  นึงที่กำลังเป็นที่นิยมนี่ก็คืออุปกรณ์ตัวนี้ครับ  ก็คือ  Handy  Drive  นะฮะ หรือว่า  USB  Flash  Drive  นั่นเอง  มีหลายชื่ออีกแล้วนะครับ  หรือว่า  USB  Flash  Drive  นั่นเอง  มีหลายชื่ออีกแล้วนะครับ  จริง ๆ  ก็คือเป็นหน่วยความจำที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีหัวเป็น  Port  USB  USB  หรือ  Universal  Serial  Bus นะฮะ  เป็น  Port  ที่สามารถที่จะเสียบเข้าไปกับ  Port  ของ  computer  เนี่ยะนะครับ  ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็จะมีทั้งเสียบจากด้านหลัง  และก็เสียบจากด้านหน้า  ชะแว็ป  มี  Port  หลายที่เหมือนกัน  USB  เนี่ยะจะมีคุณสมบัติก็คือ  เมื่อไปเสียบเข้ากับอุปกรณ์ใดแล้วเนี่ยะนะครับ  Window เนี่ยะมันจะรู้จักเลยนะครับ  ถ้ายังไม่รู้จักเลยก็เรียกว่าอะไรล่ะ  ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมเลยนะครับ  ว่างั้นเถอะนะครับ  เสียบเข้าไปแล้วก็สามารถที่จะบันทึก  หน่วยความจำต่าง ๆ เข้าไป  File ต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในหน่วยความจำของตัวมันนะครับ  ซึ่งมันก็จะมีตั้งแต่  32  MB  64  MB  128  MB  256  MB  และก็  512  1024  พอรึยังครับ  พอแล้วนะครับไม่ต้องเยอะมากก็ได้  ก็จะประมาณนี้นะครับความจุมันก็จะเพิ่มเป็นเท่าตัว ๆไปเรื่อย ๆ  นะฮะ  เลขที่หลาย ๆ คนจำกันไม่ค่อยได้  โอโห ทำไมไอ้เลขหน่วยความจำมันยังไงนะพี่  มัน  32 M  แล้วมันอะไรต่อนะพี่  มัน  64 M  แล้วมัน..  จริง ๆ แล้วมันก็คือการคูณสองเป็นเท่าตัวนั่นเองนะครับ  ในการข้าม  step  ในแต่ละครั้งนะครับ  ซึ่งก็จะมาจากเลขฐาน  8  ก็จะเริ่มจาก  8 ก่อน  8 M  16 M  32 M  48 M  อะไรไปเรื่อย นะครับ  ก็ประมาณนี้นะครับ  ทีนี้เอ่ออันนี้ก็จะเป็น  Handy  Drive  นะครับเอาไว้ใช้แทน  Disket  นะครับในปัจจุบันนะครับมาดูกันอีกนิดนึงนะครับ  ด้านหลังนะครับ  นี่ แว็ป  ถ้ามาดูกันเราก็จะพบว่า  จะมีส่วนโซนนี้นะครับซึ่งจะมีพัดลมใหญ่เลยนะครับระบายอากาศนะครับ  ถ้ามาดูกันให้ดีเนี่ยะด้านนี้  ไม่รู้จะรีบพลิกทำไมนะครับ  ในด้านนี้นี่ก็จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า  Power  Supply  Power  Supply คืออะไรฮะ  ตัวจัดหาพลังไฟมาหล่อเลี้ยงเครื่องนะครับก็คือตัวคล้าย ๆ หม้อแปลงนั่นเองนะครับ  จะเป็นจุดที่จะรับสัญญาณจะรับสาย  AC  นะครับ  สาย AC  ก็คือสายปลั๊กทั่วไปเนี่ยะนะครับเสียบเข้ามาแล้วก็แปลงไฟ  จ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ นะครับ  แน่นอนว่าบ้านเราใช้ไฟ  220 โวล์ตนะครับ  แต่ว่าอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวก็ไม่ได้ใช้ไฟ  220  โวล์ตหมดนะครับ  มันก็จะจัดการส่งไฟไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมนะครับ  ประมาณนี้นะครับ แล้วก็ด้านหลังนี้นะครับ ก็จะเป็น  Port  นะครับที่บอกนะครับ  USB เนี่ยะเราได้เห็นกันไปเรียบร้อยแล้วนะครับเอาไว้เสียบ  Port  USB USB  ทุกวันนี้ต้องบอกว่าเป็น  Port  มาตรฐานไปเรียบร้อยแล้วนะครับอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวที่ถูกออกมา  ถูกผลิตออกมา  ไม่ว่าจะเป็น  Printer  Scanner  นะครับ  กล้องดิจิตอล  เอ่อ  เยอะครับเยอะก็จะใช้  USB  แทบทั้งสิ้นนะครับ เพราะว่าเป็น  Port  ที่เอ่อ  ใช้สะดวกใช้ง่ายนะครับ  เสียบปุ๊บก็เรียกว่า  Plug  and  Play  Window  ก็จะรู้เลยว่าอุปกรณ์อะไรเสียบเข้าไปนะครับ มี  Serial  เอ่อ  PS2  นะครับ  PS2  Port  นะครับ  สีม่วงกับสีเขียวอันนี้ยังไม่ถูกเปลี่ยนนะครับ ก็ยังมีอยู่นะครับ  เพราะว่าเป็น  Port  ที่ใช้เสียบ  Mouse  และ  Keyboard  นั่นเองนะครับ  โดยการแบ่งสีง่าย ๆ  นะครับ  สีม่วงก็คือ  Keyboard  สีเขียวก็คือ  Mouse  นะครับ  ทุกเครื่องเหมือนกันนะครับ  ไม่มีเครื่องไหนใช้สีแสดสีดำ  อะไรอย่างงี้ไม่มี  ก็จะเป็นสีม่วงกับสีเขียวแทบทั้งสิ้นนะครับ  แต่  Mouse  ทุกวันนี้ก็ทรยศ  Port  PS2  พอสมควรนะครับ  อย่าง  Mouse  ตัวนี้เนี่ยะนะครับก็จะเป็น  Port  USB  นะครับ  นี่  เพราะว่าตอนนี้  USB  ดังมากนะครับ  หลายคนก็อยากจะใช้  USB กันจังเลย  ก็จะมี  Mouse แบบ  USB  Keyboard  USB ออกมาเช่นเดียวกัน  แต่ใช้งานเหมือนกันนะครับ  ไม่ได้ถือว่าเป็นการส่งข้อมูลกันได้เร็วขึ้นมากมายนัก  เพราะว่าเคาะการ   Input  ข้อมูลเพียงแค่กดเนี่ยะก็ไม่ได้กิน  Bawitch  หรือว่าช่องทางเดินข้อมูลมากนักนะครับมี  Port  com1  นะครับ  มี  Port  VGA  นะครับใส่สัญญาณภาพนั่นเองนะครับ  อันนี้เป็นการ์ดจอที่เพิ่มมาพิเศษ  แต่  Mainboard  บางรุ่นเนี่ยะก็จะมีทั้งการ์ดจอและ  sound card เนี่ยะอยู่ในตัวเรียบร้อยแล้ว 
อันนี้เรียกว่าเป็น  Mainboard  แบบประหยัดงบประมาณหน่อยนะครับ  ติดมาเรียกร้อยนะครับ  ก็ขายพร้อมกันมานะครับ  บางคนไม่ชอบบอกพี่ผมไม่ชอบพวก  sound  on  board  ผมไม่ชอบพวก  VGA  เลยเพราะว่าแหม่..มันไม่สะใจผม  ผมอยากได้  sound  card  ดี ๆ ก็แล้วแต่ตังค์ในกระเป๋าน้องนะครับ  น้องก็ไปซื้ออะไรที่มันคิดว่าใช้งานแล้วเหมาะสมกับงานที่ทำนะครับ  อย่างอันนี้เนี่ยะ  computer  ของผมเอง  ผมก็คิดว่าผมใช้กราฟฟิกค่อนข้างเยอะก็เลยมีการ์ดจอเพิ่มขึ้นมานะครับ  แต่ความจริงก็ใช้การ์ดจอที่อยู่บน  Mainboard  ก็ได้นะครับ  และก็มีช่อง  Output  นะครับ  ในส่วนของเสียงนะฮะที่จะเอาไปออกลำโพง  มี  Input  Microphone  นะครับต่าง ๆ  นะครับ  มี  Port  Printer  นะครับ  หรือ  LPT  Port  นะครับ  ก็เป็น  Port  ที่จะออกไปสู่  Printer  นั่นเอง  แต่  Printer  ปัจจุบันนี้เนี่ยะลืม  Port  นี้กันไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่ผลิตออกมาเป็น  USB  แทบทั้งสิ้น  ก็ไปเสียบ  USB  แทนนะครับ  ก็จะเป็นประมาณนี้คร่าว ๆ นี่ก็คืออุปกรณ์  Hardware  นั่นเองนะครับ  ซึ่งถ้าเทียบกับร่างกายคนเราแล้วเนี่ยะนะครับ  ก็อย่างที่บอกครั้ง 
อันนี้  Hard disk  คืออะไรครับ  เป็นอะไรครับ  เป็นหน่วยความจำ  เป็นสมองในส่วนที่จำนั่นเองนะครับ  CPU  เป็นสมองในส่วนที่คิด  คิดอย่างเดียว  RAM  ก็เป็นหน่วยความจำชั่วคราว  จำปุ๊บปิดเครื่อง  หาย  ลืม  เอ๋อเลย  ฮะ  เมื่อกี้ว่าไงนะ  นะครับ  ก็ต้อง   ก็ต้อง  Save  ใส่  RAM  พอ  RAM  คิดไว้เสร็จปั๊บก็ต้องกด  Save  ด้วยเพื่อจะได้เข้าไปลง  Hard disk  อีก ที  VGA  ก็เป็นเหมือนกับตาช่วยทำให้ได้แสดงผลได้นะครับบนหน้าจอของ  Monitor  นะครับ  และก็สายแพรสายอะไรต่าง ๆ ก็เปรียบเหมือนกับเส้นเลือดนั่นเองนะครับ  Mainboard  คือร่างกายนะครับ

3. Intel vs AMD     
ทีนี้หลายคนก็เริ่มรู้สึกว่า  ปัจจุบันนี้เนี่ยะมันมี  CPU  รุ่นใหม่ ๆ  มากขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ    วันที่กำลังบันทึกสื่อการสอนนี้อยู่เนี่ยะนะครับ สูงสุดตอนนี้เนียะก็คือ  Intel  Pentium IV  Processor  นะครับ  เป็นรุ่นใหม่เรียกว่า  Hyper  Trading  Extreme  นะครับ  ความเร็ว  3.2  GHz  GHz  เนี่ยะก็ถือว่าเร็วมากนะครับ  เพราะว่าเดิมทีเนี่ยะถ้าเกิดย้อนไปเมื่อประมาณ  7 ปีที่แล้วเนี่ยะ  ตั้งแต่สมัยผมเริ่มใช้  computer  ใหม่ ๆ เนี่ยะนะครับ  ก็เป็น  Pentium I  เป็น  Intel  เหมือนกัน  Intel  Pentium I  นะครับ  ความเร็ว  133  MHz  หน่วยต่างกันนะครับ  MHz  เนี่ยะพอครบพันปั๊บ  พอ  100  200  300  พอเป็น  1000  MHz  ปั๊บก็กลายเป็นมาตราใหม่เรียกว่า  GHz  นะ ตอนนี้ก็  3.2  GHz  นะครับและก็มีความสามารถในการทำให้  หรือระบบปฏิบัติการ  Window  XP  เนี่ยะนะครับมองเห็น  CPU  เป็นสองตัว  ทั้ง ๆ ที่ซื้อมาติดแค่ตัวเดียว  พอเห็นเป็นสองตัวปั๊บก็จะช่วยกันทำงานได้อย่างสุดฤทธิ์นะฮะเรียกว่าผัวหาบเมียคอนนะครับ  สองแรงแข็งขันนะครับ  ส่งงานไปให้มันคิด  ส่งไปชิ้นหนึ่งก็แยกกันไปสองชิ้นช่วยกันคิด ๆๆๆๆ  สุดท้ายก็เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณเกือบ  50%  ทีเดียวนะครับ  ก็จะมี  Pentium  IV  นะครับที่เร็วที่สุดตอนนี้นะครับ  ในอีกฝั่งหนึ่ง  CPU  นี่ถ้าจะพูดถึงฝั่ง  Intel  อย่างเดียวนี่เดี๋ยวอีกฝั่งจะน้อยใจนะครับ  เอ่อ  แน่นอนก็เหมือนสินค้าทั่ว ๆไปก็ต้องมีสินค้าคู่แข่งเสมอนะครับ  Intel  Pentium  IV  เป็น  CPU  ที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงเวลานี้  ยี่ห้อ  Intel  นี่นะครับ  ที่บอก  Intel  inside  เนี่ยะเพราะว่าแผนการตลาดเค้าดีมากนะครับ  เค้าก็ปลูกฝังว่า  computer  ที่มีศักดิ์ศรีเนี่ยะต้อง  Intel  inside  เท่านั้น  แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายยี่ห้อนะครับ  อีกหนึ่งยี่ห้อที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันก็คือยี่ห้อ  AMD  นะครับ  AMD  นี่ก็เป็นผู้ผลิต  Processor  ที่เรียกว่าขับเคี่ยวงัดกันมากับ  Intel  มานานนะครับ ตอนนี้  AMD  ก็จะมีรุ่นที่เรียกว่า  แอทล่อน  XP  นะครับ  แอทล่อนก็เป็น  CPU  เทียบเท่ากับทาง  Pentium  IV  เหมือนกันนะครับ  แต่ล่าสุดตอนนี้  ล่าสุดอีกแล้วนะครับ  วงการ  computer  เปลี่ยนเร็วมากนะครับก็จะมีอีกตัวนึงชื่อว่าแอทล่อน  64 bit นะครับ  เป็นการใช้สถาปัตยกรรมแบบ  64  bit  ซึ่งสูงกว่า  Intel  Pentium  IV  ซึ่งเป็นแค่  32  bit นะครับ  อ้า...ทีนี้  CPU  รุ่น  top  Pentium  IV  แอทล่อนนี่อยู่ตลาดบนอยู่สำหรับพวกที่ชอบ  High  Performance  นะครับ  ประสิทธิภาพต้องสูง  จะใช้งาน  computer  นี่จะต้องเร็วสุด ๆ ในขณะเดียวกันครับ  เบี้ยน้อยหอยน้อยแบบเรานะครับประเภทควักกระเป๋ามาแล้วไม่มีตังค์เลยนะครับ  จริง ๆ ก็คงจะมีบ้างนะครับ  ก็จะต้องใช้  CPU  ในราคาประหยัดหน่อยนะครับ  Intel  และ  AMD  ก็เห็นตรงกันว่า    แหม...เราจะมาขาย  CPU  รุ่น  top อย่างเดียวเนี่ยะสงสัยคน  computer  ไม่แพร่หลายทั่วโลกแน่นะครับ  ก็เลยจะมี  CPU  อีกสองตระกูลด้วยกันนะครับ  ฝั่ง  Intel  เนี่ยะจะเรียกว่า  เซลโลรอน  Prosesser  บางคนเรียก  เซลโลล่อน  นะครับ  จริง ๆ แล้วเรียกว่า  เซลโลรอน  Processor  ส่วนฝั่งของ  AMD  ก็จะมี  ดูรอน  Prosesser  นะครับก็เป็น  CPU  ราคาประหยัดเพื่อผู้ใช้ตามบ้าน  Home  Use  ทั่วไปที่ใช้งานแค่ดูหนัง  ฟังเพลง  เล่น  Internet  พิมพ์งานจบไม่ต้องทำกราฟฟ่งกราฟฟิกอะไรมากนะครับก็ประมาณนี้ครับ

4. ระบบปฏิบัติการ(OS)
ส่วนประกอบต่าง ๆ นะครับเมื่อหลอมรวมกันประกอบเข้าไปใน  computer  แล้วเนี่ยะนะครับ  ในสิ่งที่เรียกว่า  case  เนี่ยะนะครับ  ตัวนี้เรียกว่า  case  นะฮะ  ก็จะกลายเป็น  computer  ใช้งานได้ยังครับ  ยังครับ  แหม...แค่นี้ยังใช้งานไม่ได้ครับ  ต้องไงครับ  ต้องเสียบปลั๊ก  ฮือ  ต้องเสียบปลั๊กเนี่ยะต้องเสียบแน่ ๆ นะฮะ  เพียงแต่ว่ามันจะต้องมีภาคของ  software  ด้วย  อย่างที่บอกมีทั้ง  Hardware  และ  Software  นะครับ 
Software  ที่ว่านี่ก็คือระบบปฏิบัติการนั่นเองนะครับ  หรือว่า  OS  ย่อมาจาก  Operating  System  นะครับ  ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ  Window  นั่นเองนะครับ  ระบบปฏิบัติการ  Window  เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่แพร่หลายมากในโลกนะครับ  แต่ยังมีระบบปฏิบัติการอื่น ๆ อีก  เอา  พูดถึง  Window  อย่างเดียวก่อน Window เนี่ยะมีประวัติการเดินทางอันยาวนานก็ประมาณ  20  ปีนะครับ  ก็จะเริ่มกันมาตั้งแต่  Window  รุ่น  version 1  เลย  version 2  มาเรื่อย  แต่ในบ้านเราเนี่ยะเริ่มใช้อย่างแพร่หลายเนี่ยะก็เป็น  Window  version  3  แล้วนะครับ  Window  3.1  นะครับ 
หลายคนเรียกแบบนั้นนะครับ  และก็มี  Window  95  นะครับเกิดขึ้นมาในปี  1995  ช่วงปลายปี  และก็มี  Window  98  นะครับ  และก็มี  Window  Me  Me  นี่ย่อมาจาก  ไม่ใช่ฉันนะฮะ  Window  Me  มาจาก  Millenium  Eddition  นะครับ  คือ  Window  ที่ออกในรุ่นปี  2000  นั่นเอง  รุ่นเปลี่ยนสหัสวรรษใหม่นะครับ  และก็มี  Window  XP  นะครับในปัจจุบันนะครับ  ใน  version  หน้า  หรือในขณะที่ท่านกำลังดูอยู่นี้นะครับอาจจะเลยจากช่วงเวลาที่ผมบันทึกเทปไปแล้วเนี่ยะก็จะมี  version  ใหม่อีกในปี  2004  เนี่ยะนะครับ  เรียกว่า  ตอนนี้มีรหัสพัฒนาเรียกว่า  Long  Horn  นะครับ  Long  Horn  ก็คือชื่อในการพัฒนาของเค้า  พอออกจริงปั๊บเค้าก็  ไม่ได้ใช้ชื่อ  Long  Horn เหมือนเป็นชื่อเล่นที่  programmer  หรือว่านักพัฒนา  OS  เนี่ยะ  เค้าเรียกกันเล่น ๆ ก่อนนะครับ  อย่างเช่น  Window  XP  เนี่ยะนะครับ  ก่อนที่จะมาชื่อเนี่ยก็เคยมีชื่อเรียกว่า  Memfisc  มาก่อน  ก็เป็นรหัสในการพัฒนาของเค้าไปนะครับ  ทีนี้  Window  แต่ละรุ่นเนี่ยก็จะมีความสามารถที่จะพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้ในยุคสมัยแตกต่างกัน  อย่างเช่น  Window 3.1  ก็จะไม่มีฟังก์ชั่นของการใช้  Internet  นะครับ  แต่ว่ามีโปรแกรมที่ถูกออกมาในยุคหลังนะครับเพิ่มเติมเข้ามาอีกครั้ง Window 3.1  จะมีการติดต่อสื่อสารกันก็เพียง  Hyper  Terminal  เป็นตัวที่จะโทรศัพท์ออกนะ  โทรศัพท์ออกไปยัง  computer  เครื่องอื่น  ไปเชื่อมกับ  computer  เพื่อนบ้านนะ  หรือว่า  computer  อยู่ข้าง ๆ กันแบบนี้เนี่ย  มนุษย์เนี่ยนะครับเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ต้องการอยู่อย่างโดดเดี่ยวอยู่แล้ว  ก็เลยมีแนวความคิดว่า  computer  ที่กระจายอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ทุกมุมโลกเนี่ยะน่าจะ  Link  เข้าหากันได้เชื่อมต่อกันได้กลายเป็นเครือข่าย  Internet  เดี๋ยว  Internet นะครับถ้าจะเล่าตามตรงถือว่า  Internet  เป็นผู้ชายวัยกลางคนแล้วนะครับ  อายุ  30  กว่าปีแล้วนะครับ  ไม่ได้มาเมื่อ  5-6  ปีที่ผ่านมานี้นะครับ  จริงๆ  Internet  เริ่มจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ  เค้ามองว่า  อื้อ  ทำยังไงนะเราจะสร้างเครือข่าย  computer  ที่ทำยังไงก็ไม่ล่ม  ไม่ล่มในที่นี้คือ  ไม่มีการ  Down  ว่างั้นเถอะ  คือยังเชื่อมต่อกันได้แม้แต่มีสงครามนิวเคลียร์  ปู้ฟ์  เกิดขึ้นอีกครั้งนะครับก็ยังติดต่อสื่อสารกันผ่าน  computer  ได้นะครับ  ซึ่งตอนนั้นเนี่ยะเค้าก็อยากจะใช้ประโยชน์จาก  Internet  ก็คือใช้ส่ง  e-mail  นะครับ  ส่งจดหมายนะครับไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ได้นะครับ  ซึ่งจากแนวคิดตรงนั้นแหละครับ  โดยการใช้มหาวิทยาลัยทำการวิจัยนะ ก็มีการวิจัยโดยการใช้มหาวิทยาลัยชื่อดังในยุคนั้น อย่างมหาวิทยาลัยเยวล์  มหาวิทยาลัยคาเนกี้เมนล่อน  ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัย  IT  อันดับหนึ่งนะครับ  เวลานี้เลยนะครับ  และก็มีมหาวิทยาลัยยูท่า มีสถาบันราชภัฏสวนดุสิต  อื้อไม่มีนะครับตอนนั้นไม่ได้ไปร่วมด้วยนะครับ  ก็จะมีสถาบันเหล่านี้แหละที่ลอง  Link  ข้อมูลกันดูนะครับว่าเครือข่ายจะวิ่งไปทางไหนบ้าง  เกิดมีสัญญาณ  lost  สัญญาณสูญหายนะดับตรงนี้เนี่ยะนะครับ  ในขณะเดียวกันก็ต้องผ่านจากช่วงที่ดับเนี่ยะติดต่อไม่ได้แต่ต้องอ้อมไปหา  zone  อื่นวิ่งกลับเข้ามาหาที่ที่นึงให้ได้นะครับ  ก็เลยกลายเป็นเครือข่าย  Internet  นะครับ  ซึ่งทุกวันนี้  โอโห ถ้านับภาพแล้วนะที่ในโลกใบนี้เชื่อมกันได้ถึงง่ายขึ้นนะครับ  เพราะว่าสัญญาณดิจิตอลมันไปเร็วมากนะครับ  คือพอกดเคาะโป้งทางนู้นก็ติดเลยนะครับ  คล้าย ๆ กับสัญญาณโทรทัศน์แหละที่ไปเร็วเหลือเกินนะครับ  เพียงแต่เราไม่ต้องไปใช้ไมโครเวฟยิงผ่านดาวเทียมอะไรกันขนาดนั้นนะ กลับเข้ามาพูดถึงเรื่องระบบปฏิบัติการกันต่อนะฮะ  หรือว่า  Operating  System  จริง ๆ แล้วในโลกใบนี้ไม่ได้มีเฉพาะ  Window  อย่างเดียวนะครับที่เป็นระบบปฏิบัติการนะครับ  มีระบบปฏิบัติการอีกเยอะมากเลย  เพราะอะไรครับ  เพราะว่า  เอ่อ..หลาย ๆ คนที่เค้าพยายามคิดค้นเพราะว่าเค้าไม่อยากที่จะตกเป็นทาสของ  Microsoft  เพียงฝ่ายเดียวนะครับ  เพราะว่า  Microsoft  ยังทำระบบปฏิบัติการขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุดนะครับ  เค้าบอกว่ากว่าเครื่อง  PC  กว่า  90%  ใช้ระบบปฏิบัติการ  Window  นะครับ  แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้แปลว่า  Window  ดีที่สุด  แต่  Window  ก็ใช้งานง่ายที่สุดอันนี้ก็ตงต้อง  ต้องยอมรับนะครับ  เพราะว่าเราถูกเรียนรู้เรื่อง  computer  ครั้งแรกก็ใช้  Window  กันมาแทบทั้งสิ้นนะครับ  แต่จริง ๆ แล้วยังมีระบบปฏิบัติการอย่างลีนุกส์  นะครับ  ลีนุกส์ซึ่งนับวันนี้ Microsoft  เริ่มหนาว ๆ กลัว ๆ ลีนุกส์แล้ว  ลีนุกส์เป็นระบบปฏิบัติการที่จะมาต่อกลอนกับ  Window  ได้ในอนาคตแน่นอนนะครับเนื่องด้วยเป็นหลักการของ Open  Source  ก็คือการแจกจ่าย  Software  ด้วยการเปิดเผย  Source  Code  Source  Code  ก็คือแก่นของตัวโปรแกรมตัว  Coding  ต่าง ๆ ที่ถูกเขียนขึ้นมานะ  นับหลายล้านบรรทัด
นะครับเปิดเผยเพื่อให้  Programmer  หรือนักพัฒนาคนอื่น ๆ  สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขได้และให้ทำให้มันเป็นลีนุกส์  version  ใหม่ ๆ ต่อไป  ฉะนั้น  Microsoft  ค่อนข้างกลัว  Open  Open  Source  พอสมควรนะครับ  เพราะว่า 
1.             แจกฟรี  นะครับ 
2.             พัฒนาต่อได้นี่นะครับ  และก็หลาย ๆ คนก็กำลังให้ความสนใจกันอย่างมากนะครับ  ลีนุกส์เกิดขึ้นมาครั้งแรกเนี่ยะนะครับด้วยความสามารถอันชาญฉลาดของมนุษย์คนนึงที่มีชื่อว่า  ลีนุกส์  ชื่อเดียวกับผลิตภัณฑ์เลย  ชื่อเต็มว่า  ลีนุกส์  ทราโว่  นะครับ  บางคนก็เรียกเค้าว่าลีนิกส์บ้าง  ลีนักส์บ้างนะครับ  ก็แล้วแต่จะเรียกกันไปอาจจะเพี้ยน ๆ กันไปบ้างนะครับ  ลีนุกส์เนี่ยะที่ตอนนี้กำลังมาแรงแทรงทางโค้งครับเพราะว่าเค้ามีหลักการในการแจกจ่าย  software  หรือว่าแจกจ่าย  License  ลิขสิทธิ์ของตัวงานนี่นะครับด้วยการคิดแบบคิดใหม่ทำใหม่  การจะเก็บลิขสิทธิ์แบบมานั่งคิดเงินเครื่องละ  3000  7000  แบบที่จ่ายกันอยู่ทุกวันนี้เค้าบอกว่าไม่ต้องไม่ต้อง  ป๋าพอใจบุญ  ก็เลยใช้  License  แบบที่เรียกว่า  GPL  นะครับ  ย่อมาจาก  General  Public  License  นะครับ  เป็น  License  ที่สามารถแจกจ่ายให้กับธารกำนันได้สาธารณะเลยว่างั้นเถอะนะครับ  แต่การแจกจ่ายในครั้งนี้มีเงื่อนไขอยู่นิดเดียวก็คือถ้าเอา  Open  Source  ของเค้าไปพัฒนาต่อแล้ว  พัฒนาเสร็จแล้วต้องส่งกลับไปให้นักพัฒนาต้นตำหรับเนี่ยะได้ดูด้วยนะครับ  ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของเราแล้ว  เราพัฒนาลีนุกส์เป็น  version  อื่นออกมานะฮะ  ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้มีอยู่เยอะมากนะครับลีนุกส์เดิม ๆ ก็เป็นลีนุกส์ตอนนี้ก็จะมีทั้งแกรนด์ลีนุกส์  Red  Hat  ลีนุกส์นะครับ  ของไทยนี่ลิบเปอร์ต้าร์ลีนุกส์นะครับ  มีลีนุกส์เยอะมาก  ลีนุกส์ทะเลของ  Nectec 
นะครับก็ทำออกมา  ก็คือลีนุกส์เหล่านั้นเนี่ยะก็จะกลายเป็น  version  ใหม่โดยที่ ไม่มีสิทธิ์ในการขาย License  คิดเงินแต่มีสิทธิ์ในการสร้างรายได้ให้ตัวเองด้วยวิธีการคิดค่า  Package  ค่าจัดทำ  CD-Rom  หรือว่าค่าโปรแกรมเสริมต่าง ๆ ที่ทำเพิ่มเข้ามาในลีนุกส์จาก  version  เดิมนะครับ  ซึ่งทุกวันนี้เนี่ยะก็มีบริษัทที่เค้าพัฒนาลีนุกส์เป็นเรื่องเป็นราวขายเป็น  solution  ให้กับองค์กรขึ้นมาเยอะหลายบริษัททีเดียวนะครับ  เอาล่ะมีลีนุกส์แล้วนะครับก็ยังมีคู่แข่งอีกตัวนึงที่โอโหยฟัดเหวี่ยงกับ  Microsoft  มานานเลยก็คือ  Max  OS  นั่นเองนะครับหรือว่าแมคอินทอชนะครับ  โดยบริษัท  Apple  Computer  อันนี้ก็ก่อตั้งโดยคุณสตีฟ  จอฟ  นะครับ  คุณสตีฟ  จอฟ  ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหาร  Apple  และก็ทุกวันนี้ก็เป็นผู้บริหารของ  พิกซ่าด้วย  พิกซ่าที่ทำการ์ตูนเรื่องไม่ว่าจะเป็น  Toy  Story  หรือว่า  Finding  Nemo  ที่เราได้ดูกันไปนะครับ  สตีฟ  จอฟ เนี่ยะเค้าเคยโกรธ    Bill  Gate  มากเลยในยุคสมัยนึงเพราะว่าช่วงที่เค้าพัฒนา  Apple  Computer  ของเค้าขึ้นมานะครับ  เค้าเป็นคนแรกที่ใช้  GUI  หรือว่า  Graphic  User  Interface  คืออะไรครับก็คือหน้าตาของ  Icon  หน้าตาของโปรแกรมปุ่มเปิ่มต่าง ๆ เนี่ยะแหละ  เค้าใช้ก่อนครับ  ไม่ใช่  Bill  Gate  คิดก่อนนะครับ  เค้าใช้มาก่อน  ปรากฏว่า  Bill  Gate  ก็บอกว่า  เอ๊ย...คิดตรงกันเลยว่ะเพื่อนนะครับ  และก็ทำบ้างนะครับ  ทำบ้างนั่นเองแล้ว  Window  ก็ดังกว่า  Max  ด้วยนะครับ  แต่แมคอินทอชก็จะมีหลักในการขายนะครับเค้าบอกว่าเค้าไม่ขายมากกำไรน้อยหรอกเค้าจะขายน้อยกำไรมากทุกวันนี้แมคอินทอชก็เลยกลายเป็น  computer  ในฝันของหลาย ๆ คนเพราะว่าราคานี่  โอ๊ย  เกินเอื้อมนะฮะ  แพง  ว่างั้นเถอะ  ก็เป็น  computer  ที่ได้รับการยอมรับในหมู่ของนักทำ  computer  กราฟฟิก  นะฮะ  multimedia  ทำเพลง  ดนตรีต่าง ๆ  ส่วนใหญ่ก็จะใช้แมคอินทอช
แต่ความเป็นจริงแล้วทุกวันนี้  computer  PC  ของเราก็ใช้งานทำ  multimedia  ทำกราฟฟิก  ทำเพลงได้เหมือนกันนะครับ  เพียงแต่ว่ายุคสมัยนึงก่อนที่  Window  มันจะมี  CPU  ที่เร็วขนาดนี้เนี่ยะนะครับและก็มีโปรแกรมที่สามารถรองรับได้ขนาดนี้เนี่ยะ  โปรมแกรมพวกตัดต่อภาพนะครับ  ตกแต่งภาพ  Photoshop  illustrator  ที่จัดแต่งหน้าหนังสือเนี่ยะมันอยู่บน  Mac  มาก่อน  พอมันอยู่บน  Max  มาก่อนปั๊บก็จะมีกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นและก็มีความเชื่อว่า  Mac  ดีกว่าก็ยังอยูในตลาดเยอะพอสมควร  อันนี้ก็คือ  Mac นะครับ  ปัจจุบันนี้  version  ล่าสุดคือ  Mac OS10  นะครับ  version  10  นะครับ  ก็หน้าตาก็เริ่มคล้าย ๆ  กับ Window  มากไปพอสม  เอ่อมากไปพอสมควรแล้วนะครับเพราะว่าจะมี  Internet  Explorer  ของฝั่ง  Microsoft  เข้าไปอยู่ในนั้นด้วยนะครับ  ก็อย่างงี้ละครับวงการ  IT  ก็คงจะเป็นเรื่องของการแข่งขันกันนะฮะอย่างสุดเหวี่ยงสุดโต่งนะฮะ  และก็ต้องหาพันธมิตรด้วยนะครับเพราะว่า    วันนี้เนี่ยะคง  คนที่จะคิดทำอะไรแบบหัวเดียวกระเทียมเลียบกระเทียมลีบเนี่ยะนะครับก็คงจะอยู่ลำบากเหมือนกันนะครับ  มี  Mac OS  มีลีนุกส์  มี  Window  แล้วก็ยังจะมียูนิกส์  ยูนิกส์เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมกันใน  server  นะครับ การทำ  server  ก็คือ  computer  ขนาดใหญ่ ๆ นะครับ  สำหรับ  run  เอ่อ  สำหรับทำเป็นเครือข่ายนั่นเองนะครับ  ก็จะเป็นยูนิกส์ซะมากก็มันจะมีเหมือนกันนะครับ  และก็จะมี  Window  สำหรับ  server  ก็มีนะครับ  เช่น  Window  Server  2003  นะครับ  version  ล่าสุดนะครับ  ก็จะพัฒนามาจาก  Window  NT  นะครับซึ่ง  Window  NT  เนี่ยะก็เป็น  Network  Station  นั่นเองนะครับ  เป็นส่วนที่ทำให้  computer  server  เนี่ยะสามารถที่จะ  run  application  ต่าง ๆ เพื่อเครื่องลูกข่ายอื่น ๆ ได้นะครับส่วน  OS  ตัวอื่น ๆ ก็จะเป็น  OS  เฉพาะทางแล้วละครับ  ก็จะเป็นพวกประเภท  Novel  Netware  นะครับที่เอ่อเป็น  OS  สำหรับ  เอ่อเครื่องเครือข่าย  computer  ใหญ่ ๆ  ก็เป็นของบริษัท  Novel  และก็มี  IBM  ยักษ์สีฟ้าของวงการ  computer  ที่เป็นยักษ์ใหญ่ที่เรียกได้ว่าเปิดโอกาสให้  Microsoft  ดังขึ้นมาได้นี่เพราะ  IBM  นะครับ  เพราะว่าครั้งนึงเนี่ยะ  Bill  Gate  เคยไปของาน  IBM  ขอพัฒนา  MS.dos  เอ่อ  Microsoft  Dos  เนี่ยะ  ซึ่งเอ่อเป็นเอ่อ  command  line  เนี่ยะนะครับ  เป็นแบบ  Text  Mode  เนี่ยะนะครับ แต่ว่า  IBM  เนี่ยะก็มี  OS  เป็นของตัวเองก็คือ  OS 2  นะฮะ  วอป  นะฮะ  OS 2  นี่แทบจะหลายคนไม่เคยเห็นเลยนะครับ  แต่ถ้าเกิดอยากจะเห็นครับ  ง่าย ๆ ครับก็ไปที่ตู้  ATM  นะครับ  ตู้  ATM  หลาย ๆ รุ่นนะครับก็จะใช้  OS 2  ของ  IBM  กันนะครับ  เพราะว่าเป็น  IBM  นี่ก็จากเป็น  computer  นะครับ  brand  แรกนะครับที่ผลิต  computer  สำหรับใช้ตามบ้าน  Personal  computer นะครับ  เค้าทำขึ้นมาก่อนโดยใช้ชื่อว่า  IBM  กลายเป็น  Generex  name  อยู่พักนึงนะครับ  ทุกคนจะซื้อ  com  บอก  เฮ้ย  เอา  com  IBM  เอา  com  IBM  จริง ๆ com  IBM  ก็คือ  computer  ส่วนบุคคลนั่นเองนะครับ  หลังจากนั้นก็จะมียี่ห้ออื่น ๆ อย่าง  คอมแพคก็มาทำ  ทำเลียนแบบ  คือใช้  ใช้  environment  เดียวกัน  แล้วก็สร้างเป็น  computer  PC  ขึ้นมา  โดยปั๊ม  Brand  เป็นคอมแพค  และก็มี  Brand  อื่น ๆ ขึ้นมาอีกเยอะแยะเป็นดอกเห็ดในปัจจุบันนะครับ  IBM  ก็เลยฉีกตัวเองไปเป็นตลาดองค์กรก็จะขายพวก  solution  เกี่ยวกับการธนาคาร  การเงิน  ระบบเครือข่ายใหญ่ ๆ  ทุกวันนี้บริษัท  IBM  ก็ยังยิ่งใหญ่อยู่นะครับ  เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันมากนักนะครับอย่างแพร่หลายนะครับ  ทีนี้เอ่อ  OS  มีอยู่เยอะครับแต่เอาง่าย ๆ เลย OS  ก็จะเป็นตัวที่เหมือนกับล่าม  ล่ามที่จะแปลภาษาของเรามนุษย์กับภาษาเครื่อง  เวลาเราจะใช้งาน  computer เราจะเปิด  CD  ออกมานะครับ  เราคงไม่บอกว่าเปิด  CD  เปิดหน่อย  เปิดซิ  เราทำอย่างงั้นไม่ได้ครับเราก็ต้องใช้  Mouseนะครับ  click  ไปที่  My  Computer  แล้วก็เข้าไปที่  CD  แล้วก็  Eject  ออกมานะครับ  หรือว่าใช้มือเรากดปุ่มของมันก็ได้ออกมานะครับ  เพียงแต่ว่าการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโปรแกรมนะฮะ  หรือว่าพวกการใช้งาน  Software  การที่เราป้อนคำสั่งเข้าไปผ่าน  Keyboard  เนี่ยะนะครับเราพิมพ์เข้าไปเป็นภาษามนุษย์นะครับ  แต่ว่าภาษามนุษย์นี้เนี่ยะก็จะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้านะครับหรือว่าสัญญาณดิจิตอลแบบ  01 01 100  1001  ต่าง ๆ เนี่ยะก็จะเป็นตัวเลข  Code  ยึบยับเต็มไปหมดเลย  ก็จะเข้าไปบอกอุปกรณ์  Hardware  ให้  Hardware  รู้ว่ามนุษย์เนี่ยะต้องการจะทำอะไร  แล้วมันก็จะเปิดสิ่งนั้นออกมาให้เราได้ดูกันนะครับ  ระบบปฏิบัติการเนี่ยะ  ผมขอพูดถึง  Window  อย่างเดียวก่อนนะครับเพราะว่าผมเองก็ใช้  OS  อื่นไม่เป็นนะครับ  และผมก็คิดว่า  Window  นี่ก็แพร่หลายมากที่สุดแล้วนะครับ  ปัจจุบันลีนุกส์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนึงนะครับของไทย  ก็ทั้ง  Nectech  และก็นักพัฒนาอิสระพยายามจะพัฒนาขึ้นมาเยอะไม่ว่าจะเป็นลีนุกส์ทะเลนะครับ  และก็จะมี  ลิเบอร์ต้าร์ลีนุกส์โดยบริษัทลิเบอร์ต้าร์  computer  เนี่ยะทำออกมา  เป็นลีนุกส์ซึ่งดีมากตัวนึง  มีกราฟฟิก  Mode  ที่ใช้งานง่าย  คล้าย ๆ Window  ทีเดียวนะครับ  แต่ผมก็ยังไม่เปลี่ยนใจ  ยังไม่ได้ใช้ก็ยังใช้  Window  อยู่นะครับ   

5.application
 ทีนี้  Window  เนี่ยะ ก็จะประกอบไปด้วยโปรแกรมนะครับ  ทุกคนก็คงจะทราบแล้วว่าเมื่อกด  start  ที่มุม
ซ้ายด้านล่างเนี่ยะนะครับก็จะมีแถบโปรแกรมออกมายึบยับเต็มไปหมดเลยนะครับ  โปรแกรมต่าง ๆ เนี่ยะ
เราก็จะสามารถเพิ่มเติมได้นะฮะ  จะมีโปรแกรมที่มากับเครื่องกับระบบปฏิบัติการอยู่แล้วประมาณนึงนะครับ  ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเครื่องคิดเลขนะครับ  นะฮะ  โปรแกรมเกมนะครับ  โปรแกรมอะไรอีกฮะ  ดูจะง่ายไปนิดนึงนะครับ  Internet  Explorer  เป็น  Browser  ใช้  Internet  ก็จะมีมาในเครื่องเรียบร้อย  MSN  Messenger  เป็นตัวสื่อสารข้อ  ข้อความแบบ  Instant  message  นะครับ  และก็มีอื่น ๆ อีกนะครับ  แต่โปรแกรมประเภท  Microsoft  Word  นะครับเอาไว้พิมพ์งาน  Power  point  เอาไว้นำเสนองาน  Outlook  นะครับเอาไว้จดบันทึกตารางนัดหมายต่าง ๆ นะครับ  รวมถึงMicrosoft  Excel ที่ทำแบบโปรแกรมประเภท  space  sheet  ทำเอ่อ  ทำตารางคำนวณนะฮะบัญชีต่าง ๆ เนี่ยะจะต้องลงเพิ่มนะครับ  ลงเพิ่มในที่นี้ก็คือจะต้องซื้อชุดโปรแกรมเข้ามานะครับ  ซึ่งปัจจุบัน  Microsoft  Word  Excel  Power  point  เนี่ยะนะฮะจะขายอยู่ในชุดที่เรียกว่า  Microsoft  Office  นะครับ  ราคาถ้าเทียบซื้อลิขสิทธิ์จริง ๆ เนี่ยะ  สองหมื่นกว่าบาท  โอโห  แพงมาก  แพงกว่าเครื่องอีกนะฮะ  หลายคนก็เลยใช้ทางออกไปเอ่อไปซื้อ  150  บาทแทนที่พันธุ์ทิพย์อันนี้ไม่ดีนะครับ อันนี้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจงใจเลย เพียงแต่ว่าซอฟต์แวร์จะถูกลงได้ ก็คงจะเป็นเพราะว่ามีผู้ใช้ทูลิขสิทธิ์เยอะขึ้น ก็เหมือนซีดีเพลง เมื่อก่อนขายกันสี่ ห้าร้อย เดี๋ยวนี้ขายกันแผ่นละร้อยกว่าบาทเพราะว่าคนหันมาใช้ลิขสิทธิ์มากขึ้น ค่ายเพลงก็ยอมลดราคาเพราะว่ามองว่าเน้น Volume แล้วกัน เพราะว่าถ้าคนใช้เยอะก็จะถึงจุดคุ้มทุนได้ไม่จำเป็นต้องขายแพงๆ  เหมือนเกมเหมือนกัน เกมเป็นกล่องๆเมื่อก่อนขายเป็นพันเลย เมืองนอกทุกวันนี้ยังเป็นพัน สองพันอยู่ บ้านเราทุกวันนี้ 399 บาท เพราะว่าพวกเราก็เห็นถึงประโยชน์ของการใช้สินค้าของแท้ หรือของลิขสิทธิ์กันเยอะขึ้น อีกหน่อย  Microsoft Office ก็คงจะถูกลง
ตอนนี้ที่ผมใช้งานอยู่นี้เป็นคอมพิวเตอร์ IBM รุ่นที่ทำมาพิเศษเพื่อ I ICT เป็นNotebook ราคาประหยัดโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ก็จะมีลิขสิทธิ์ใน Window XP พร้อม Microsoft Office ในราคาเพียง 1440 บาท เป็นไงครับถูกลงเยอะเลย แล้วก็ถูกที่สุดในโลกด้วย   เรื่องราคา Software    ก็เป็นปัญหาโลกแตกเลยครับ เพราะว่าหลายฝ่ายก็จะมองว่าโอโหทำไมขายแพงอย่างนี้ ในขณะเดียวกัน Microsoft ก็บอกว่าจะให้ลดได้ยังไงในเมื่อประเทศอื่นเขาซื้อกันได้ ประเทศเรามาลด สมมุติว่าเราลดราคา เราขายกันจริงๆทั่วๆ แพ็คละพันกว่าบาท คนที่อยู่สิงคโปร์ ซึ่งอยู่ใต้เรา มาเลเซียอยู่ใต้เราซื้อเป็นหมื่นเนี่ยเขาคงไม่ชอบเหมือนกัน 
เพราะฉะนั้นราคา Software ก็ยังคงเป็นราคากลาง ที่เป็นราคาค่าครองชีพของต่างประเทศอยู่  บ้านเราก็คงเป็นราคาที่ปวดใจพอสมควรนะครับ  ทีนี้สำหรับโปรแกรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมตกแต่งภาพ  Photo Shop หรือว่าโปรแกรม Illustrator ทำจัดหน้าหนังสือ ก็เป็นโปรแกรมที่ต้องซื้อมาลงแทบทั้งสิ้น  โปรแกรมทุกวันนี้ถ้าเทียบแขนงจริงนะครับก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมทางด้านงานกราฟฟิก ที่จะทำตั้งแต่ภาพสองมิติ สามมิตินะครับ ทรีดี สตูดิโอ แมส หรืออะไรก็แล้วแต่  และก็โปรแกรมทางด้านการปรับแต่งเครื่อง เราเรียกว่า Utility  Utilityนี่ก็จะมีบทบาทในการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ง่ายขึ้น ได้สะดวกขึ้น ปรับทำให้มันเร็วขึ้น เร่งประสิทธิภาพออกมาได้ง่ายขึ้น     Software ประเภทแอนตี้ไวรัส อันนี้ก็จำเป็นต้องมีในเครื่องเหมือนกัน  เพราะว่าพอเอาเครื่องเราเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเนี่ยนะครับ มีใครก็ไม่รู้พยายามที่จะเข้ามาโจมตีเราเยอะเลย ส่งไวรัส ส่งอะไรเข้ามา เราต้องมีตัวกัน ตัวกรองว่า file ที่จะเข้ามามันมีไวรัสหรือไม่  คอยสแกนหานะครับ  แล้วก็จะมีโปรแกรมใช้งานทั่วๆไป อย่าง Microsoft Office ที่บอกไปแล้ว และก็ตัว Internet Explorer ที่จะเข้าสู่ Website ต่างๆ แล้วก็ยังจะมีโปรแกรมดูหนัง ฟังเพลง Multimedia มีหลายโปรแกรมนะครับ มากับ Window ซะแล้ว ก็คือ window media player  นั้นเองซึ่งเป็น program ที่หลายคนรู้จักกันแล้ว เพราะดูนะครับ ก็จะมีอยู่ 2 ลักษณะ ก็คือเปิดเป็นตัว program ขึ้นมาเลย กับ add on อยู่ใน หน้า browser หน้า website เวลาเข้าไปใน website ที่มี multi multimedia มันสามารถเปิด ออกมาเป็นกรอบเล็กๆ อยู่ในตัวหน้า  ได้ อยู่กับการตั้งโค้ดของนักพัฒนา website , นักพัฒนา programที่เขาจะให้แสดงผลอยู่ในกรอบ ไม่ได้มีการเปิด program ขึ้นมา และก็มีพวก quick time ที่มาจากค่าย apple เป็น program ดูหนังฟังเพลงเหมือนกัน และก็ยังมีอีกหลากหลายตัวที่ก็คงจะเป็นปลีกย่อยแล้วนะครับ ที่เราคงยังไม่พูดถึงในวันนี้นะครับ แต่ทีนี้ในวันนี้รู้จักwindow รู้จัก program บ้างว่ามันมีอะไรบ้าง เราคงจะแนะนำวิธีป้องกันตนเองบน Internet  ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใหญ่มากถ้าเปรียบ เปรียบแล้วเหมือนห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในโลก เพราะเราสามารถเข้าไปอ่านข้อมูล ในเครื่อง computer เครื่องอื่นๆที่เขาอยากให้เราอ่านนะครับ หมายถึงเขาทำในรูปแบบ website ไว้ให้เราสามารถเข้าไปดูไ ด้ นะครับ เป็นแบบนั้น